Facebook Ads Manager เป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพในการสร้าง Leads หรือกลุ่มเป้าหมายที่มีศักยภาพในการซื้อสินค้าหรือบริการของคุณ บทความนี้จะแนะนำวิธีสร้าง Leads บน Facebook Ads Manager ทีละขั้นตอน
ขั้นตอนที่ 1: กำหนดเป้าหมายแคมเปญ
- เลือก Lead Generation เป็นวัตถุประสงค์ของแคมเปญ
- ตั้งชื่อแคมเปญของคุณ
- เลือก เพจ ของคุณที่จะใช้ในการโฆษณา
ขั้นตอนที่ 2: เลือกกลุ่มเป้าหมาย
- เลือก กลุ่มเป้าหมายที่กำหนดเอง หรือ สร้างใหม่
- ระบุข้อมูลประชากร เช่น อายุ เพศ สถานที่ ฯลฯ
- เลือกรายละเอียดเพิ่มเติม เช่น ความสนใจ พฤติกรรม ฯลฯ
ขั้นตอนที่ 3: ตั้งค่าโฆษณา
- เลือกรูปแบบโฆษณาของคุณ เช่น รูปภาพ วิดีโอ หรือ Carousel
- เขียนข้อความโฆษณาที่ดึงดูดความสนใจ
- ใส่ คำกระตุ้นการตัดสินใจ (CTA) ที่ชัดเจน เช่น “สมัครรับข้อมูล” หรือ “ดาวน์โหลด Ebook ฟรี”
ขั้นตอนที่ 4: ตั้งค่าแบบฟอร์ม Lead
- เลือกข้อมูลที่คุณต้องการเก็บจาก Leads เช่น ชื่อ นามสกุล เบอร์โทรศัพท์ อีเมล ฯลฯ
- เขียนคำถามเพิ่มเติมเพื่อคัดกรอง Leads
- ปรับแต่งข้อความขอบคุณสำหรับ Leads ที่กรอกข้อมูล
ขั้นตอนที่ 5: ตั้งค่าการงบประมาณและระยะเวลา
- เลือก งบประมาณ รายวันหรือตลอดชีพ
- เลือก ระยะเวลา ของแคมเปญ
ขั้นตอนที่ 6: ตรวจสอบและเผยแพร่โฆษณา
- ตรวจสอบการตั้งค่าทั้งหมดของคุณ
- คลิก เผยแพร่ โฆษณาของคุณ
เคล็ดลับเพิ่มเติม
- ใช้รูปภาพหรือวิดีโอที่มีคุณภาพสูง
- ทดสอบข้อความโฆษณาต่างๆ เพื่อดูว่าข้อความไหนมีประสิทธิภาพมากที่สุด
- เสนอสิ่งจูงใจให้ Leads กรอกข้อมูล เช่น ส่วนลด Ebook ฟรี หรือสิทธิพิเศษต่างๆ
- ตรวจสอบผลลัพธ์ของแคมเปญของคุณอย่างสม่ำเสมอ
การสร้าง Leads บน Facebook Ads Manager เป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพในการขยายฐานลูกค้าของคุณ ทำตามขั้นตอนเหล่านี้และลองใช้เคล็ดลับเพิ่มเติมเพื่อเพิ่มโอกาสในการสร้าง Leads ที่มีคุณภาพ
เอเจนซี่ทำการตลาดออนไลน์
ที่เน้นผลลัพธ์เชิงธุรกิจ
ทุกธุรกิจที่ทำการตลาดออนไลน์ล้วนต้องการทิศทางที่ถูกต้องและผลลัพธ์ที่แม่นยำมากที่สุด แต่สิ่งสำคัญคือ เราวิเคราะห์ตลาดและคู่แข่งลึกมากพอแล้วหรือยัง 99AdsAgency ใช้เครื่องมือระดับสากลที่พร้อมช่วยให้การทำดิจิตอลมาเก็ตติ้งประสบความสำเร็จมากที่สุด
รับแผนกลยุทธ์ฟรี
คลังความรู้การตลาดออนไลน์
การวัดผลการทำโฆษณา Google Ads เป็นเรื่องสำคัญ
📈 การวัดผลการทำโฆษณา Google Ads เป็นเรื่องสำคัญเพื่อให้ทราบว่าแคมเปญโฆษณาของคุณมีประสิทธิภาพแค่ไหนและต้องปรับปรุงในด้านใดบ้าง นี่คือวิธีการวัดผลหลักๆ ที่คุณควรรู้: การใช้ Google Ads Dashboard: คลิก (Clicks): จำนวนครั้งที่ผู้ใช้คลิกที่โฆษณาของคุณ เป็นตัวบ่งชี้ว่าผู้ใช้สนใจโฆษณาของคุณ.
Jul
คำแนะนำสำหรับการทำวิดีโอสำหรับคลินิกเสริมความงาม
วิดีโอถือเป็นเครื่องมือสำคัญในการดึงดูดลูกค้าและสร้างการรับรู้แบรนด์ สำหรับคลินิกเสริมความงาม วิดีโอสามารถช่วยนำเสนอบริการ สร้างความน่าเชื่อถือ และกระตุ้นให้ลูกค้าตัดสินใจใช้บริการ ต่อไปนี้คือคำแนะนำสำหรับการทำวิดีโอสำหรับคลินิกเสริมความงาม: 1. กำหนดเป้าหมายและกลุ่มเป้าหมาย: ก่อนอื่น คุณต้องกำหนดเป้าหมายของวิดีโอว่าต้องการสื่อสารอะไร ต้องการนำเสนอบริการใด กลุ่มเป้าหมายของคุณเป็นใคร เมื่อทราบเป้าหมายแล้ว คุณจึงสามารถวางแผนเนื้อหา รูปแบบ
May
กลยุทธ์การสร้างแบรนด์สำหรับคลินิกเสริมความงาม
ในยุคที่การแข่งขันในธุรกิจคลินิกเสริมความงามสูงขึ้น การมีกลยุทธ์การสร้างแบรนด์ที่ชัดเจนและโดดเด่นจึงเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง บทความนี้จะนำเสนอ 5 กลยุทธ์สำคัญที่จะช่วยให้คลินิกของคุณสร้างแบรนด์ที่แข็งแกร่ง ดึงดูดลูกค้า และประสบความสำเร็จในระยะยาว 1. กำหนดจุดยืนและเอกลักษณ์ของแบรนด์ สิ่งแรกที่ต้องทำคือการกำหนดจุดยืนและเอกลักษณ์ของแบรนด์ คลินิกของคุณมีจุดแข็งอะไร? บริการอะไรที่แตกต่างจากคู่แข่ง? กลุ่มเป้าหมายของคุณคือใคร? เมื่อคุณตอบคำถามเหล่านี้ได้แล้ว คุณจะสามารถสร้างภาพลักษณ์ของแบรนด์ที่ชัดเจน
May
โฆษณาบนโซเชียลมีเดีย กลยุทธ์ดึงดูดลูกค้าสู่คลินิกเสริมความงาม
โซเชียลมีเดียกลายเป็นช่องทางสำคัญที่ผู้คนใช้ติดตามข่าวสาร แบ่งปันข้อมูล และค้นหาสินค้าและบริการต่างๆ ธุรกิจคลินิกเสริมความงามจึงไม่ควรพลาดโอกาสในการใช้โซเชียลมีเดียเพื่อเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายและดึงดูดลูกค้าใหม่ๆ 1. กำหนดกลุ่มเป้าหมาย: ก่อนอื่น คลินิกควรวิเคราะห์กลุ่มเป้าหมายที่ชัดเจน ว่ากลุ่มเป้าหมายหลักของคลินิกคือใคร เพศใด วัยอะไร มีความสนใจด้านความงามแบบไหน อาศัยอยู่ในพื้นที่ใด เมื่อทราบข้อมูลเหล่านี้แล้ว คลินิกจึงสามารถกำหนดกลยุทธ์การโฆษณาบนโซเชียลมีเดียที่ตรงจุดและมีประสิทธิภาพได้
May
Content Marketing กลยุทธ์ดึงดูดใจลูกค้า คลินิกเสริมความงาม
ในยุคดิจิทัลที่ผู้คนใช้เวลากับหน้าจอเป็นเวลานาน Content Marketing กลายเป็นกลยุทธ์สำคัญที่ช่วยให้ธุรกิจเข้าถึงลูกค้าและสร้างการมีส่วนร่วมได้อย่างมีประสิทธิภาพ สำหรับคลินิกเสริมความงาม การทำ Content Marketing ที่ดี จะช่วยดึงดูดใจลูกค้าใหม่ สร้างความน่าเชื่อถือให้กับแบรนด์ และ ultimately นำไปสู่ยอดขายที่เพิ่มขึ้น 1.
May
Shopify เปรียบเทียบกับแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซอื่นๆ
การมีร้านค้าออนไลน์เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับธุรกิจที่ต้องการเติบโตและเข้าถึงลูกค้าใหม่ๆ Shopify เป็นหนึ่งในแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซที่ได้รับความนิยมมากที่สุด แต่ก็ยังมีตัวเลือกอื่นๆ อีกมากมายในตลาด บทความนี้จะเปรียบเทียบ Shopify กับแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซยอดนิยมอื่นๆ เพื่อช่วยให้คุณตัดสินใจได้ว่าตัวเลือกใดเหมาะกับธุรกิจของคุณ Shopify โดดเด่นในด้านความง่ายในการใช้งาน แม้จะไม่มีประสบการณ์ด้านการเขียนโปรแกรม คุณก็สามารถสร้างร้านค้าออนไลน์ที่สวยงามและใช้งานได้ Shopify ยังมีเทมเพลตและแอปพลิเคชันมากมายให้เลือก
May